ประวัติส่วนตัว

ชื่อ พระไพ  นามสกุล  สุไชย  ฉายา  สุรชโย

Name Phra Phai  Last name Suchai  Nickname  Surachayo

      เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ เดือน พฤศจิกายน ๒๕๒๐ ที่ บ้านสามแยกขันอาสา ตำบลคูสะคาม  อำเภอ วานรนิวาส  จังหวัด สกลนคร  บิดาชื่อนายอำนวย สุไชย  มารดาชื่อนางน้อย สุไชย  พ่ออำนวย และ แม่น้อย มีบุตรธิดาร่วมกันทั้งหมด ๔ คน พระไพ เป็นบุตรคนที่ ๑  เนื่องด้วยเป็นบุตรคนโต การเรียนจึงจบแค่ประถมศึกษาปีที่ ๖ จึงได้ออกมาช่วยบิดาทำนา  ในวัยเป็นหนุ่มก็ชอบเที่ยวบ้างตามประสาวัยรุ่นที่ชอบความสนุกสนานแต่ก็อยู่ในกอบความพอดีคือไม่เถลไถลเกินไป ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ไม่เป็นนักเลงต่อยตี จึงทำให้พ่อแม่ไม่ลำบากใจเรื่องเป็นนักเที่ยวในเวลาวิกาลมากนัก การเที่ยวในเวลาวิกาลนั้นก็ไม่ใช้ว่าจะเที่ยวหาความสนุกสนานด้วยการดูหนังฟังเพลงอย่างเดียวบางครั้งก็เที่ยวไปหาสนทนากับครูบาอาจารย์สมภารที่วัด ทำให้คุ้นเคยกับครูบาอาจารย์และชอบชีวิตแบบนักบวชขึ้นมาบ้าง  เมื่อย่างเข้าวัย ๒๐ ก็รู้สึกว่าตนเองอายุกำลังเพิ่มมากขึ้นทุกที่ เป็นวัยที่กำลังตัดสินใจจะเอาอย่างไรกับชีวิต จะเลือกทางครองเรือนหรือจะเป็นนักบวชหาความสงบให้กับตนเอง เพื่อนร่วมรุ่นก็ทยอยมีครอบครัว เราจะอยู่เป็นหนุ่มแก่อย่างนี้ไปเลื่อยๆหรืออย่างไร การมีครอบครัวก็ต้องประกอบอาชีพต่างๆเพื่อให้ครอบครัวอยู่รอด ทำงานหามรุ่มหามค่ำเพื่อให้ลูกเมียมีอยู่มีกินไหนจะส่งเสียให้ลูกได้มีการศึกษาสูงๆมีรถขี่มีบ้านสวยๆไม่อายคนอื่นเขา นอกจากลูกเมียแล้วก็ยังมีพ่อตาแม่ยาย พ่อและแม่อีกเป็นภาระที่หนักมากสำหรับชีวิตฆราวาส การมีครอบครัวก็จำเป็นต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อนำมาเป็นอาหาร หรือขายเพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัว มันจึงเป็นการขัดต่อนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนรักสัตว์ ไม่ชอบเห็นสัตว์อื่นถูกทรมานด้วยการฆ่า หรือทรมานด้วยการกักขัง ความคิดในวัย ๒๐ ค่อนข้างจะไปไกลสักหน่อย หรือว่าเราอาจเป็นคนที่คิดมากก็เป็นได้ จึงได้ตัดสินใจเลือกทางนักบวช เมื่อวัยอายุ ๒๒ ปี  อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๒  อุปัชฌาย์ พระครูธัญญเขตบริรักษ์ พระกรรมวาจาจารย์ พระครูโพธิชยานุรักษ์  อนุสาวนาจารย์ พระครู ชัยวิชิต ชัยวิชิโต วัดโพธิ์ชัยวิทยาราม ตำบล วานรนิวาส อำเภอ วานรนิวาส จังหวัด สกลนคร  ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ ณ วัดถ้ำมงคลศิลาราม บ้านแสนสำราญ ตำบลหนองซน อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม

                                           ประวัติวัดถ้ำมงคลศิลาราม

           วัดถ้ำมงคลศิลาราม เป็นวัดที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านชัยมงคล แสนสำราญ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๕ โดยการนำของพ่อใหญ่ใคร พ่อใหญ่ลี พ่อใหญ่หนั่น พ่อใหญ่ผัน  พร้อมด้วยชาวบ้านที่มาตั้งรกรากสมัยแรก ได้ดำเนินการก่อสร้างวัดนี้ขึ้นมา ฝ่ายพระก็มีหลวงพ่อเพชร ผู้บุกเบิกนำศรัทธาญาติโยมก่อสร้างถาวรวัตถุแห่งนี้ขึ้น ต่อมาท่านก็ได้มอบหมายให้หลวงปู่บุตรเป็นผู้ดูแลรักษาสร้างวัดสืบต่อมา  วัดนี้ตั้งอยู่ในเนื้อที่ ๒๙ ไร่ ที่ส่วนหนึ่งเป็นพระลานหิน ชาวบ้านจึงนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดหินดาน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อต่อท้ายว่าศิลาราม ตอนแรกเริ่มเดิมทีสมัยที่บุกเบิกใหม่นั้น มีหลวงปู่นอ มาปักกรดที่ใกล้ๆถ้ำ (ที่จริงก็คือเงื้อมหินยื่นออกมานั้นเองแต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าถ้ำ) ชาวบ้านจึงจัดสร้างเสนาสนะถวายท่าน พอได้อยู่จำพรรษา ถ้ำหรือเงื้อมหินแห่งนี้ แต่ก่อนสมัยที่ชาวบ้านจะเข้ามาก่อสร้างวัดวา เป็นถ้ำที่ลึกพอประมาณ มีเศษซากของเก่าโบราณ เป็นต้นว่าไหเก่าโบราณและกระดูกคนแปดศอก ซึ่งเป็นกระดูกที่ใหญ่มาก มีอายุน่าจะประมาณหลายพันปี แต่เนื่องด้วยกาลเวลาผ่านไปหลายปี หน้าดินไหลเข้ามาทับถมทำให้ถ้ำตื้นเขิน ไม่สามารถเห็นซากเก่าโบราณเหมือนแต่ก่อน ถ้ำโบราณแห่งนี้เป็นถ้ำที่ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นถ้ำลึกลับศักดิ์สิทธิ์ เพราะแต่ก่อนผู้คนจะไม่สามารถนำสิ่งของออกจากถ้ำนั้นได้ ถ้านำไปต้องได้เอากลับคืนมาส่ง เพราะผู้ที่นำไปได้ประสพเหตุต่างๆทำให้เจ็บป่วย จึงเป็นที่ครั่นคร้ามของคนสมัยก่อน คงเป็นเพราะเหตุว่ามีถ้ำหรือเงื้อมหินนี้เองชาวบ้านจึงให้ขนานนามวัดนี้ว่า วัดถ้ำมงคลศิลาราม นอกจากวัดนี้จะมีถ้ำและพระลานหินแล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านมีความเชื้อว่าเป็นลอยของพญางู ที่เลื้อยตระเกือกตระกายประทับรอยให้เห็น เป็นรอยขนาดใหญ่และยาวมาก ชาวบ้านจึงให้ขนานนามรอยที่ปรากกฎนี้ว่า รอยงูทรวง  วัดถ้ำมงคลศิลารามมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้  วัดถ้ำที่น่าฉงนหินศิลาอาจมงคลเป็นสง่า รอยงูทรวงนาคาน่าพิศไหม ลายแทงสมบัติคนเก่าเล่าไหว้ แม่มารนอนหงายนอนคะแคลงฝากรอยให้จดจำ  วัดถ้ำมงคลตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกบ้านแสนสำราญ หมู่ ๑๐ ตำบลหนองซน อำเภอนาทม  จังวัดนครพนม  มีเนื้อที่ ๒๙ ไร่ ๓ งาน-ตารางวา มีอาณาเขตดังนี้   ทิศเหนือยาว ๓๐๙ เมตร  ทิศใต้ยาว ๒๒๘ เมตร  ทิศตะวันออกยาว ๑๓๑      ทิศตะวันตกยาว ๓๐๖ เมตร

          เงื้อมหินที่ยื่นออกมาแต่ก่อนลึกลงไปมีซากหม้อและกระดูกคนโบราญที่ฝังอยู่ใต้ดิน

        พระพุทธรูปปรางมารวิชัยหล่อขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๖ตั้งอยู่บนก้อนหินเหนือถ้ำเงื้อมหิน

                                 ศาลาการเปรียญที่ใช้ประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนา

   ศาลา กว้าง ๑๗.๐๐เมตร ยาว ๒๔.๕๐ เมตร สิ้นค่าก่อสร้างสี่ล้านบาทก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๐

ศาลาหอ  ฉันสร้างขึ้นเมื้อปี พ.ศ.๒๕๕๗ กว้าง ๑๓.๐๐เมตร ยาว ๑๔.๐๐ เมตร ค่าก่อสร้าง สามแสน บาท ถ่วน

            กุฏิเจ้าอาวาสสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๐ งบประมาณ ๓๓๐,๐๐๐ บาท

      โรงครัว

                                                            ห้องน้ำ

 รอยงูซวง